Statement คืออะไร สำคัญอย่างไร วันนี้เรามีคำตอบ

หลาย ๆ คนอาจจะเคยได้ยินคำนี้มาแล้ว สำหรับคนที่ต้องการจะขอกู้เงินผ่านธนาคาร ทำบัตรเครดิต หรือผ่อนของต่าง ๆ ก็น่าจะรู้กันมาบ้างว่า Statement เป็นอะไรที่สำคัญมาก ๆ ว่าแต่มันคืออะไร ทำไมมันถึงสำคัญล่ะ ? วันนี้ เรามีคำตอบให้คุณ

Statement คืออะไร?

ก่อนที่จะไปยังเนื้อหาอื่น ๆ เรามาทำความเข้าใจกันก่อนเลยว่า Statement คืออะไร Statement หรือ สเตทเมนท์ เป็นใบแจ้งยอดธนาคาร ที่จะรวมยอดเงินเข้าและออก ตามขอบเขตเวลาที่เรากำหนด โดย Statement ของแต่ละธนาคารจะมีวิธีการขอที่แตกต่างกันไป และยิ่ง Statement เยอะหรือน่าเชื่อถือ ก็จะสามารถทำธุรกรรมทางการเงินต่าง ๆ ได้ง่ายมากขึ้น นอกจากนี้ การขอ Statement นั้นยังเป็นอีกหนึ่งวิธีในการบริหารการเงินสำหรับคนที่ไม่ได้ทำบัญชีรายรับรายจ่ายอีกด้วย

Statement สำคัญอย่างไร เหตุผลอะไรที่เราต้องขอ สเตทเมนท์

Statement นั้น อย่างที่บอกไปว่ามันคือ ใบแจ้งยอดธนาคาร ที่จะรวบรวมเงินเข้า-ออก ตามระยะเวลาที่เรากำหนด โดย Statement นี้ใช้สำหรับคนที่ต้องการทำธุรกรรมทางการเงินต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น การกู้เงิน การผ่อนรถ ผ่อนบ้าน โดยสาเหตุที่ธนาคารหรือบริษัทที่ให้กู้ยืมจะต้องพิจารณาจากสเตทเมนท์นั่นก็เพราะว่า การพิจารณาจาก Statement จะช่วยให้ทางธนาคาร หรือผู้ให้กู้ยืมเงิน ได้ตรวจสอบกระแสเงิน ว่าบ่อยแค่ไหน หรือมีเงินเข้าออกในบัญชีมากน้อยแค่ไหน เพื่อเป็นการเช็คความเสี่ยงที่ผู้กู้ยืมจะจ่ายเงินไม่ตรงเวลา หรือเป็นมิจฉาชีพที่ต้องการจะฟอกเงินจากการกู้เงิน โดยยิ่ง Statement มีความเคลื่อนไหวเยอะ ยิ่งสามารถกู้เงินได้ง่าย

วิธีการขอ Statement ขอยังไง ทำยังไง

การขอ Statement หรือ ใบแจ้งยอดธนาคาร ในแต่ละธนาคารนั้นจะมีวิธีที่ไม่เหมือนกัน แม้ว่าจะคล้ายกันอยู่บ้างแต่ก็มีบางส่วนที่ไม่เหมือนกัน จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย

• ธนาคารกรุงเทพ สามารถเข้าไปขอ Statement โดยตรงที่ธนาคาร โดยต้องเตรียม สมุดบัญชี และ บัตรประชาชนเพื่อขอ Statement หากขอย้อนหลังเกิน 6 เดือนจะมีค่าธรรมเนียมอยู่ที่ 200 บาท และหาก 2 ปีขึ้นไปจะเสีย 500 บาท และสามารถที่จะขอผ่านแอพ Mobile Banking ได้ โดยระบบจะส่งเข้าผ่านทางอีเมล
• ธนาคารกรุงไทย ขอได้โดยตรงที่ธนาคาร โดยหากขอย้อนหลังตั้งแต่ 3-6 เดือนเสียค่าธรรมเนียม 100 บาท 6-12 เดือนเสียค่าธรรมเนียม 200 บาท และหากขอที่ 2 ปีขึ้นไปเสียค่าธรรมเนียม 500 บาท และสามารถขอได้ผ่าน Mobile banking โดยจะส่งผ่านอีเมลแบบไม่เสียค่าใช้จ่าย
• ธนาคารไทยพาณิชย์  สามารถขอได้ผ่านทางธนาคาร เตรียมเอกสารบัตรประชน  และสมุดบัญชี หากขอย้อนหลังเกิน 6 เดือนเสียค่าธรรมเนียม 100 บาท หากมากกว่านั้นจะขึ้นอยู่กับสาขา และสามารถขอ ทาง Callcenter จะต้องมีบัตรเอทีเอ็ม และขอย้อนหลังได้ไม่เกิน 6 เดือนด้วยค่าธรรมเนียม 100 บาท
• ธนาคารกสิกรไทย ทางธนาคาร เตรียมบัตรประชาชนและสมุดบัญชี ค่าธรรมเนียมหากขอย้อนหลังต่ำกว่า 6 เดือน 100 บาท และ 6-24 เดือน 200 บาท และหากมากกว่า 24 เดือน 500 บาท สามารถขอทางออนไลน์ ทำได้โดยผ่านระบบ K-email statement โดยข้อมูลจะส่งผ่านอีเมลหรือ ไปรษณีย์
• ธนาคารธนชาต ทางธนาคาร ใช้บัตรประชาชน และ สมุดบัญชี โดยมีค่าธรรมเนียมสำหรับ Statement ย้อนหลังไม่เกิน 6 เดือน 100 บาท และ 6 เดือน ขึ้นไป 200 บาท สามารถขอได้ทางทาง Internet Banking แต่สามารถขอย้อนหลังได้ไม่เกิน 3 เดือน ไม่เสียค่าธรรมเนียม
• ธนาคารทหารไทย ทางธนาคารต้องใช้ บัตรประชาชน และสมุดบัญชี ค่าธรรมเนียมสำหรับ Statement ย้อนหลังไม่เกิน 6 เดือน 100 บาท  6 เดือน ขึ้นไป ค่าธรรมเนียมที่200 บาททางออนไลน์ ผ่านระบบ TMB Touch และแอพพลิเคชั่น ME by TMB

สรุป

Statement นั้นอ่านผ่าน ๆ อาจจะดูเหมือนขั้นตอนที่ยุ่งยาก แต่ก็เป็นขั้นตอนที่สำคัญอย่างมากในการกู้เงินหรือหรือทำธุรกรรมทางการเงิน ซึ่ง Statement จะช่วยให้คุณมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น และทำ ธุรกรรมทางการเงินได้ง่ายขึ้นนั่นเอง