พิมพ์

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.
1 ชั่วโมง 1 วัน 1 สัปดาห์ 1 เดือน ตลอดกาล
เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

[admin]

ชื่อบริษัท    บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)
ที่อยู่    89 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม.
เบอร์โทรศัพท์    0-2545-1000, 0-2595-1000    
เบอร์โทรสาร    0-2513-0203

นโยบายการจ่ายปันผล:
ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 25 ของกำไรสุทธิก่อนผลกำไรหรือขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ จากงบการเงินรวมทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับแผนการลงทุน ความจำเป็นและความเหมาะสมอื่นๆ ในอนาคต

เว็บไซต์    http://www.thaiairways.com
กราฟ ข้อมูลหุ้น http://www.ruayhoon.com/stock/THAI/

[admin]

สรุปผลการดำเนินงานของบจ.และรวมของบริษัทย่อย (F45-3)                     
                    บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)

                                           (หน่วย : พันบาท)
งบการเงินรวม                                       
                                   ไตรมาสที่ 3               งวด 9 เดือน
                                      สอบทาน                    สอบทาน
       สิ้นสุดวันที่                            30 กันยายน                30 กันยายน
             ปี                             2556         2555         2556         2555
  กำไร (ขาดทุน) สุทธิ              (6,194,663)    1,744,663  (6,350,640)    5,436,205
  กำไร (ขาดทุน) สุทธิ                   (2.84)         0.80       (2.91)         2.49
     ต่อหุ้น (บาท)           


งบการเงินเฉพาะกิจการ                               
                                   ไตรมาสที่ 3               งวด 9 เดือน
                                      สอบทาน                    สอบทาน
       สิ้นสุดวันที่                            30 กันยายน                30 กันยายน
             ปี                             2556         2555         2556         2555
  กำไร (ขาดทุน) สุทธิ              (6,275,205)    1,408,996  (7,631,494)    3,602,163
  กำไร (ขาดทุน) สุทธิ                   (2.87)         0.65       (3.50)         1.65
     ต่อหุ้น (บาท)

[admin]

เปิดปมการบินไทยขาดทุน
http://www.thairath.co.th/content/eco/392782

[admin]

BLS.THAI: แนวโน้มผลประกอบการไม่สดใส
วันที่เผยแพร่ : 13/02/2014
 
บทวิเคราะห์โดยสังเขป :
     

ประเด็นการลงทุน

แนวโน้มผลประกอบการที่อ่อนแออันเป็นผลมาจากอุปสงค์ที่ชะลอตัว (เนื่องจากการประท้วงทางการเมือง) และต้นทุนที่ไม่ยืดหยุ่น น่าจะเป็นปัจจัยกดดันราคาหุ้นต่อไปอีกระยะหนึ่ง นอกจากนี้ช่วงโลว์ซีซั่นของการท่องเที่ยวไทยที่จะมาถึงในไตรมาส 2/57 ทำให้เราไม่เห็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นในระยะสั้น ดังนั้นเราจึงปรับลดคำแนะนำเป็น ถือ จาก ซื้อเก็งกำไร อย่างไรก็ตามเราเชื่อว่าตลาดได้สะท้อนประเด็นกังวลดังกล่าวไว้แล้วเป็นส่วนใหญ่ THAI มีระดับการซื้อขายอยู่ที่ PBV ณ สิ้นปี 2557 ที่ 0.6 เท่า ซึ่งต่ำกว่าทั้งค่าเฉลี่ยระยะยาวและค่าเฉลี่ยภูมิภาคที่ 0.9 เท่า ความเสี่ยงขาลงต่อราคาหุ้นน่าจะมีจำกัด

การประท้วงทางการเมืองจะส่งผลกระทบต่อผลประกอบการไตรมาส 4/56

ความไม่สงบทางการเมืองที่ยังคงยืดเยื้อส่งผลกดดันต่ออุปสงค์การจราจรทางอากาศในประเทศไทย อุปสงค์อ่อนแอลงต่อเนื่องหลังจากรัฐบาลประกาศพรก.ฉุกเฉิน จากสภาวะดังกล่าวเราคาดว่าอัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสารของ THAI จะอยู่ที่ 71% ลดลงจาก 76.3% ในไตรมาส 4/55 และ 75.3% ในไตรมาส 3/56 นอกจากนี้ยังคาดการณ์รายได้จากผู้โดยสารเฉลี่ยต่อหน่วยลดลงมาอยู่ที่ 2.69 บาทต่อ RPK จาก 2.76 บาทต่อ RPK ในไตรมาส 4/55 เนื่องจากการแข่งขันที่รุนแรง (แต่บริษัทน่าจะรายงานรายได้จากผู้โดยสารเฉลี่ยต่อหน่วยเพิ่มขึ้นจาก 2.57 บาทต่อ RPK ในไตรมาส 3/56 ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวบริษัทเสนอโปรโมชั่นตั๋วโดยสาร)

นอกจากนี้เราคาดว่า THAI จะรายงานผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 3 พันล้านบาท และการตั้งด้อยค่าเครื่องบินและสินทรัพย์จำนวน 2 พันล้านบาท ดังนั้นเราคาดว่าบริษัทจะรายงานผลขาดทุนสุทธิไตรมาส 4/56 7,917 ล้านบาท ขาดทุนเพิ่มขึ้น QoQ และพลิกกลับจากกำไรสุทธิในไตรมาส 4/55 หากไม่รวมรายการพิเศษ ผลขาดทุนหลักไตรมาส 4/56 จะอยู่ที่ 2,875 ล้านบาท ขาดทุนเพิ่มขึ้น YoY แต่ลดลง QoQ

กำไรไตรมาส 1/57 มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น QoQ (แต่ยังคงรายงานผลขาดทุน)

เนื่องจากปัญหาความไม่สงบทางการเมืองที่อาจยืดเยื้อ เราคาดการณ์ว่าอุปสงค์การจราจรทางอากาศในไทยจะยังคงอ่อนแอในไตรมาส 1/57 อัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสารสำหรับเดือนม.ค. 2557 อยู่ที่เพียง 71.5% ลดลงจาก 78.8% ในไตรมาส 1/56 ในขณะที่อัตราการจองเที่ยวบินสำหรับเดือนก.พ.และมี.ค.ในขณะนี้อยู่ที่ 65% และ 49% เท่านั้น อย่างไรก็ตามรายได้จากผู้โดยสารเฉลี่ยต่อหน่วยสำหรับเดือนม.ค.ปรับตัวดีขึ้น QoQ มาอยู่ที่ 2.80 บาทต่อปริมาณการขนส่งผู้โดยสาร (RPK) หนุนโดยการปรับลดเที่ยวบินและไม่มีโปรโมชั่นตั๋วโดยสาร ดังนั้นเราคาดว่าผลประกอบการหลักไตรมาส 1/57 จะปรับตัวดีขึ้น QoQ (แต่ยังคงรายงานผลขาดทุน)

ภาวะความไม่สงบทางการเมืองส่งผลให้เราปรับลดประมาณการลง

เพื่อสะท้อนคาดการณ์ผลประกอบการไตรมาส 4/56 ใหม่ของเรา ผลขาดทุนสุทธิปี 2556 ของเราจึงเพิ่มขึ้นเป็น 14,267 ล้านบาท จาก 6,180 ล้านบาท นอกจากนี้เราปรับลดประมาณการปี 2557 ลงเป็นขาดทุนสุทธิ 4,264 ล้านบาท จากกำไรสุทธิ 3,508 ล้านบาท เพื่อสะท้อนประเด็นต่อไปนี้ 1) สมมติฐานจำนวนผู้โดยสารที่ลดลง และ 2) สมมติฐานปริมาณการขนส่งผู้โดยสาร (RPK) ที่ต่ำลง (ดังแสดงในตารางที่ 2) อย่างไรก็ตามเรายังคงสมมติฐานรายได้จากผู้โดยสารเฉลี่ยต่อหน่วยไว้เท่าเดิมที่ 2.64 บาทต่อ RPK เนื่องจากเราคิดว่าโครงการบริหารจัดการเที่ยวบินจะช่วยลดผลกระทบเชิงลบจากโปรโมชั่นตั๋วโดยสารลงได้ (ซึ่งเราคาดว่าบริษัทจะออกโปรโมชั่นตั๋วโดยสารในเร็วๆนี้ เพื่อกระตุ้นรายได้) เราปรับลดราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2557 ลงเป็น 15 บาท จาก 23 บาท อ้างอิงจากระดับ PBV ที่ลดลงมาอยู่ที่ 0.6 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวของ THAI ที่ 0.8 เท่า (ระดับอ้างอิงก่อนหน้าของเรา) อยู่ 0.5 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
 
คำแนะนำ :
     

คำแนะนำพื้นฐาน: ถือ
เป้าหมายพื้นฐาน: 15.00 บาท

[admin]

วันที่/เวลา 25 ก.พ. 2557 18:59:32
หัวข้อข่าว สรุปผลการดำเนินงานของบจ.และรวมของบริษัทย่อย ประจำปี (F45-3)
หลักทรัพย์ THAI
แหล่งข่าว THAI
รายละเอียดแบบเต็ม คลิกที่นี่เพื่อดาวน์โหลดรายละเอียดข่าวรูปแบบเต็ม



สรุปผลการดำเนินงานของบจ.และรวมของบริษัทย่อย (F45-3)
บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)

(หน่วย : พันบาท)
งบการเงินรวม
ประจำปี
ตรวจสอบ
สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม
ปี 2556 2555
กำไร (ขาดทุน) สุทธิ (12,047,374) 6,228,973
กำไร (ขาดทุน) สุทธิ (5.52) 2.85
ต่อหุ้น (บาท)


งบการเงินเฉพาะกิจการ
ประจำปี
ตรวจสอบ
สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม
ปี 2556 2555
กำไร (ขาดทุน) สุทธิ (13,437,992) 4,429,654
กำไร (ขาดทุน) สุทธิ (6.16) 2.03
ต่อหุ้น (บาท)

[admin]

BLS.THAI: ผลประกอบการไตรมาส 4/56 ดีกว่าคาด; คาดการณ์ผลประกอบการหลักปรับตัวดีขึ้น QoQ ในไตรมาส 1/57
วันที่เผยแพร่ : 26/02/2014
 
บทวิเคราะห์โดยสังเขป :
     

สูงกว่าคาด

THAI รายงานผลขาดทุนสุทธิไตรมาส 4/56 ที่ 5,697 ล้านบาท ขาดทุนลดลง QoQ แต่พลิกกลับจากกำไรสุทธิไตรมาส 4/55 หากไม่นับรวมผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 2,931 ล้านบาท, การตั้งด้อยค่าสินทรัพย์จำนวน 2,288 ล้านบาท และกำไรจากรายการแทนการจำหน่ายจำนวน 722 ล้านบาท ขาดทุนหลักไตรมาส 4/56 จะอยู่ที่ 1,199 ล้านบาท ขาดทุนเพิ่มขึ้น YoY แต่ขาดทุนลดลง QoQ ผลประกอบการที่ออกมาดีกว่าประมาณการของเราและตลาด เนื่องจากค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงานที่ต่ำกว่าคาด และรายได้อื่นและกำไรพิเศษที่สูงกว่าคาด โดยสำหรับปี 2556 THAI รายงานผลขาดทุนสุทธิจำนวน 12,047 ล้านบาท (พลิกกลับจากกำไรสุทธิในปี 2555) และรายงานผลขาดทุนหลัก 3,747 ล้านบาท (พลิกกลับจากกำไรหลักในปี 2555)

ประเด็นหลักจากผลประกอบการ

ผลการดำเนินงานหลักที่อ่อนแอลง YoY เนื่องมาจาก 1) รายได้จากผู้โดยสารต่อหน่วยที่ลดลง (ลดลง 3% YoY มาอยู่ที่ 2.67 บาทต่อ RPK), 2) จำนวนผู้โดยสารลดลง (ลดลง 4% YoY มาอยู่ที่ 5.3 ล้านคน ในขณะที่อัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสารลดลงเป็น 71% จาก 76.3% ในไตรมาส 4/55), 3) รายได้จากค่าระวางอ่อนแอลง (ลดลง 2% YoY มาอยู่ที่ 9.20 บาทต่อ RFTK) และ 4) อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายที่เพิ่มขึ้นเป็น 5.0% จาก 3.6% ในไตรมาส 4/55 ในขณะเดียวกันผลการดำเนินงานหลักที่ปรับตัวดีขึ้น QoQ มีปัจจัยหนุนมาจาก 1) รายได้จากผู้โดยสารต่อหน่วยที่เพิ่มสูงขึ้น (เพิ่มขึ้น 4% QoQ), 2) ปริมาณการบรรทุกสินค้าเพิ่มขึ้น 11% QoQ เป็น 170,766 ตัน, 3) ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงานลดลง 13% QoQ, 4) รายได้อื่นเพิ่มขึ้น 312% QoQ และ 5) เครดิตภาษี (เทียบกับภาระภาษีจ่ายในไตรมาส 3/56) แต่จำนวนผู้โดยสารลดลง 2% QoQ ในขณะที่อัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสารลดลงจาก 75.3% ในไตรมาส 3/56

แนวโน้ม

เนื่องจากปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองที่น่าจะยืดเยื้อเป็นเวลาหลายเดือน เราคาดการณ์ว่าอุปสงค์การจราจรทางอากาศในประเทศในไตรมาส 1/57 จะยังคงอ่อนแอ อัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสารสำหรับเดือนม.ค. 2557 อยู่ที่ 71.5% เท่านั้น ลดลงจาก 78.8% ในไตรมาส 1/56 ในขณะที่ยอดจองตั๋วโดยสารสำหรับเดือนก.พ.และมี.ค.ในขณะนี้มีเพียง 65% และ 49% เท่านั้น อย่างไรก็ตามรายได้จากผู้โดยสารต่อหน่วยสำหรับเดือนม.ค.ปรับตัวดีขึ้น QoQ มาอยู่ที่ 2.80 บาทต่อ RPK โดยมีปัจจัยหนุนจากรอบบินที่ลดลงและการไม่มีโปรโมชั่นตั๋วโดยสาร ดังนั้นเราคาดว่าผลประกอบการหลักไตรมาส 1/57 จะปรับตัวดีขึ้น QoQ (แต่ยังคงรายงานผลขาดทุน)

สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไป

เรายังคงประมาณการขาดทุนสุทธิปี 2557 ไว้เท่าเดิมที่ 4,264 ล้านบาท

ประเด็นการลงทุน

แนวโน้มรายได้ที่อ่อนแออันเป็นผลมาจากความไม่สงบทางการเมืองซึ่งส่งผลเชิงลบต่อตัวเลขการจราจรทางอากาศขาเข้ารวมถึงการจราจรทางอากาศในประเทศด้วย กอปรกับโครงสร้างต้นทุนที่สูงของ THAI จะส่งผลให้รายได้ออกมาไม่ดีนักและราคาหุ้นอาจไม่น่าสนใจ นอกจากนี้จะเริ่มเข้าสู่ช่วงโลว์ซีซั่นของฤดูกาลท่องเที่ยวในไตรมาส 2/57 ดังนั้นเรายังไม่เห็นอัพไซด์หนุนราคาหุ้นในระยะสั้นนี้ อย่างไรก็ตามเราเชื่อว่าตลาดได้สะท้อนประเด็นกังวลดังกล่าวไว้แล้ว THAI มีระดับการซื้อขายอยู่ที่ PBV ณ สิ้นปี 2557 ที่ 0.5 เท่า ซึ่งต่ำกว่าทั้งค่าเฉลี่ยระยะยาวของบริษัทที่ 0.8 เท่า และค่าเฉลี่ยภูมิภาคที่ 0.9 เท่า ความเสี่ยงขาลงต่อราคาหุ้นน่าจะมีจำกัด
 
คำแนะนำ :
     

คำแนะนำพื้นฐาน: ถือ
เป้าหมายพื้นฐาน: 15.00 บาท

[admin]

BLS.THAI: มีมุมมองเชิงลบมากขึ้นต่อแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 1/57
วันที่เผยแพร่ : 07/03/2014
 
บทวิเคราะห์โดยสังเขป :
     

ประเด็นการลงทุน

ประเด็นหลักจากการประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวานนี้ยังยืนยันแนวโน้มรายได้ที่อ่อนตัวลง จากปัญหาความไม่สงบทางการเมืองที่ส่งผลกระทบต่อการเดินทางทางอากาศทั้งขาเข้าและภายในประเทศ นอกจากนี้โครงสร้างต้นทุนที่สูงของ THAI จะเป็นอีกปัจจัยที่กดดันผลประกอบการของบริษัทและราคาหุ้นต่อไป พร้อมกันนี้การท่องเที่ยวก็จะเข้าสู่ช่วงโลว์ซีซั่นในไตรมาส 2/57 ดังนั้นเราจึงไม่เห็นปัจจัยที่จะหนุนราคาหุ้นในระยะสั้น อย่างไรก็ตามเราเชื่อว่าตลาดได้สะท้อนความกังวลในราคาหุ้นแล้ว THAI ปัจจุบันซื้อขาย PBV ณ สิ้นปี 2557 ที่ 0.6เท่า ซึ่งต่ำกว่าทั้งค่าเฉลี่ยระยะยาวของบริษัทที่ 0.8เท่า และค่าเฉลี่ยภูมิภาคที่ 0.9เท่า ปัจจัยความเสี่ยงขาลงต่อราคาหุ้นน่าจะมีจำกัด

มีมุมมองเชิงลบมากขึ้นต่อแนวโน้มกำไรไตรมาส 1/57

เรามีมุมมองเชิงลบมากขึ้นต่อแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 1/57 ของ THAI เนื่องจากรายได้จากผู้โดยสารเฉลี่ยต่อหน่วยมีแนวโน้มปรับตัวลดลงต่ำกว่าที่เราประมาณการก่อนหน้า และการเดินทางทางอากาศเข้ามาและภายในประเทศไทยก็ยังคงชะลอตัว อัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสารเป็น 71.5% ในเดือนม.ค. (เทียบกับ 78.8% ในเดือนม.ค. 2556) และ 70% ในเดือนก.พ. (เทียบกับ 80.4% ในเดือนก.พ. 2556) ในขณะที่อัตราการจองอยู่ที่ 59% ในเดือนมี.ค. และ 53% ในเดือนเม.ย. ดังนั้นเราจึงคาดว่าอัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสารไตรมาส 1/57 จะลดลงมาอยู่ที่ 70% จาก 79.8% ในไตรมาส 1/56 นอกจากนี้รายได้จากผู้โดยสารเฉลี่ยต่อหน่วยสำหรับเดือนม.ค. ก็ปรับตัวลดลง 5% YoY และ 3% MoM เป็น 2.70 บาทต่อคน และคาดว่าจะลดลงต่อเนื่องในเดือนก.พ.จากปัจจัยทางฤดูกาลและโปรโมชั่นราคาตั๋วที่รุนแรง ดังนั้นเราจึงประมาณการขาดทุนหลักไตรมาส 1/57 เพิ่มสูงขึ้น QoQ (เทียบกับกำไรหลักไตรมาส 1/56)

ผลประกอบการปี 2557 มีความเสี่ยงขาลงจากอุปสงค์ที่ชะลอตัวและการด้อยค่าที่เพิ่มขึ้น

อุปสงค์และรายได้จากผู้โดยสารเฉลี่ยต่อหน่วยที่อ่อนตัวลง จากเหตุการณ์ไม่สงบทางการเมือง ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการหลักปี 2557 ของ THAI จากการวิเคราะห์ของเราชี้ว่ารายได้จากผู้โดยสารเฉลี่ยต่อหน่วยที่ลดลงทุก 0.01 บาทต่ำกว่าสมมติฐานของเรา (ที่ 2.64 บาทต่อคน) ขาดทุนหลักของบริษัทปี 2557 จะปรับตัวลดลง 15% จากประมาณการปัจจุบัน นอกจากนี้ยังมีความเป็นไปได้ที่จะมีการตั้งค่าเผื่อการด้อยค่าของเครื่องบินเพิ่มเติม จึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยความเสี่ยงขาลงต่อผลประกอบการปี 2557 ของ THAI อ้างอิงจากข้อมูลที่ผู้บริหารชี้แนะ เราประมาณการเบื้องต้นว่าบริษัทอาจมีการตั้งค่าเผื่อการด้อยค่าของเครื่องบินเพิ่มอีกประมาณ 1 พันล้านบาทในปีนี้ (เทียบกับ 5 พันล้านบาทในปี 2556)

การปรับเที่ยวบินและสัญญาป้องกันความเสี่ยงจากราคาน้ำมันจะลดความเสี่ยงขาลง

บริษัทได้ดำเนินกลยุทธ์ปรับเปลี่ยนเที่ยวบินเพื่อที่จะเพิ่มอัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสารและรายได้จากผู้โดยสารต่อหน่วย นอกจากนี้ THAI ยังได้ทำสัญญาป้องกันความเสี่ยงจากราคาน้ำมันเครื่องบิน ซึ่งปัจจุบันสัญญาสำหรับไตรมาส 1/57 ได้ครอบคลุมการประมาณการความต้องการใช้น้ำมันในไตรมาสนี้ถึง 68% บริษัทยังได้ทำสัญญานี้สำหรับ 3 ไตรมาสที่เหลือ ซึ่งบริษัทได้ทำสัญญาครอบคลุม 54% ของการคาดการณ์การใช้น้ำมันในแต่ละไตรมาส เราคาดว่าการปรับเที่ยวบินและกลยุทธ์ป้องกันความเสี่ยงจากราคาน้ำมันจะลดความเสี่ยงขาลงของผลประกอบการปี 2557 ได้
 
คำแนะนำ :
     

คำแนะนำพื้นฐาน: ถือ
เป้าหมายพื้นฐาน: 15.00 บาท

[admin]

วันที่ 21 เมษายน 2557 17:06
บินไทยอ่วมการเมืองฉุดยอดผู้โดยสารร่วง

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
http://www.bangkokbiznews.com/home/deta ... 21/576746/บินไทยอ่วมการเมืองฉุดยอดผู้โดยสารร่วง.html


"การบินไทย" อ่วม พิษการเมืองฉุดยอดผู้โดยสารเดือน มี.ค. วูบ 20.5% ชี้ไตรมาสแรกขาดทุนมากกว่าคาด ปัดแผนโละพนักงานหลังบอร์ดให้ศึกษาเพิ่ม



นายโชคชัย ปัญญายงค์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่อาวุโส สายกลยุทธ์และพัฒนาธุรกิจ และรักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI กล่าวว่า จำนวนผู้โดยสารเดือน มี.ค. อยู่ที่ 1.59 ล้านคน ลดลง 20.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจาก ในเดือนนี้สถานการณ์ทางการเมืองที่ยังยืดเยื้อ ส่งผลต่อการตัดสินของนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทย

" มีการหลีกเลี่ยงการเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยจากการชุมนุม ถึงแม้ว่าจะมีการประกาศยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้วก็ตาม" นายโชคชัยกล่าว

สำหรับ อัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสาร (เคบิน แฟคเตอร์) เดือนมี.ค.อยู่ที่ 68.7% ลดลง จากช่วงเดียวกันปีก่อนอยู่ที่ 80.3% ทำให้เคบิน แฟคเตอร์ ในไตรมาสแรกปีนี้ อยู่ที่ 71.1% จาก 79.8% ในงวดเดียวกันปีก่อน

ทั้งนี้ สถานการณ์ทางการเมือง จะส่งผลกระทบต่อจำนวนผู้โดยสารในไตรมาส 1/57 ให้มีแนวโน้มลดลง ซึ่งจะส่งผลกระทบผลการดำเนินงานงวดไตรมาสที่ 1/57 ที่ประเมินจะขาดทุนอยู่แล้ว เป็นขาดทุนเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 30 ล้านบาท โดยนักท่องเที่ยวที่ลดลง ได้แก่ นักท่องเที่ยวจากจีนลดลง 25.8% เกาหลี 17% และญี่ปุ่น 8%

สำหรับ แผนการปรับลดจำนวนพนักงาน นั้น นายโชคชัย กล่าวว่า ที่ประชุมของคณะกรรมการบริหาร ยังไม่ได้มีมติโดยได้ให้ฝ่ายบริหารกลับไปศึกษาโครงการดังกล่าวเพิ่มเติม

อย่างไรก็ตาม การบินไทย มีโครงการร่วมใจจากองค์กรเพื่อปรับปรุงโครงสร้างเรื่องอัตราพนักงาน เบื้องต้นมี 3 แนวทางหลัก ได้แก่ 1.การปรับลดจำนวนพนักงานให้สอดคล้องกับการปฏิบัติงาน 2.การปรับลดอายุพนักงานเฉลี่ยให้ลดลง และ 3.คัดเลือกพนักงานปฏิบัติหน้าที่ตรงต่อความรู้สึกและความสามารถที่มี

ส่วนรูปแบบการจ่ายค่าตอบแทนสำหรับผู้ร่วมโครงการ เป็นแบบ 2 แพ็คเกจ 1. การจ่าย 30 เดือน โดยเพิ่มค่าแรงจูงใจอีก 10 เดือน 2.จ่าย 20 เดือน โดยเพิ่มค่าแรงจูงใจอีก 10 เดือน พร้อมค่ารักษาพยาบาล ซึ่งทางบอร์ดคณะกรรมการได้ให้ฝ่ายบริหารไปศึกษาว่าโครงการนี้จะสามารถใช้กับใครและพนักงานคนใดได้บ้าง ซึ่งจะเป็นการช่วยลดต้นทุนของบริษัทได้

[admin]

บินไทยQ1 ขาดทุนโอเปอเรชัน 3.3 พันล.

วันพฤหัสบดีที่ 24 เมษายน 2014 เวลา 06:50 น. กอง บก.ฐานเศรษฐกิจ ข่าวหน้า1 - คอลัมน์ : ข่าวหน้า1
Source:http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=228088:q1--33-&catid=85:2009-02-08-11-22-45&Itemid=417#.U1pWuicayK1

ปิดฉากบินไทยQ1 ขาดทุนโอเปอเรชัน 3.3 พันล้านบาท ส่งสัญญาณทั้งปีนี้ส่อแววขาดทุน ชี้เหตุหลักจากการเมือง และปัญหาภาวะโอเวอร์คาปาซิตี้ อันเป็นผลพวงจากการรับมอบเครื่องบินช่วง 2 ปีนี้กว่า 31 ลำมากที่สุดเป็นประวัติศาสตร์ ท่ามกลางสภาพตลาดชะลอตัว
แหล่งข่าวระดับสูงจากบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ"ว่าผลการดำเนินธุรกิจในช่วงไตรมาสแรกของการบินไทยในปีนี้บริษัท อย่างไม่เป็นทางการพบว่าจะประสบปัญหาการขาดทุนจากการดำเนินงานหรือโอเปอเรชัน(ก่อนหักภาษี)อยู่ที่ 3.3 พันล้านบาท แต่ยังมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเข้ามาอีกราว 700 ล้านบาท ส่งผลให้ยอดการขาดทุนโอเปอเรชัน(ก่อนหักภาษี) อยู่ที่ประมาณ 2.6 พันล้านบาท ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ไม่ดีนัก เนื่องจากที่ผ่านมาการบินไทยจะมีกำไรจากการดำเนินงานในช่วงไตรมาสแรกของทุกปี และเป็นการสำรองเงินไว้รองรับผลการดำเนินการไตรมาส 2 และ3 ที่จะประสบปัญหาขาดทุน
ดังนั้นเมื่อผลประกอบการไตรมาสแรกขาดทุน ประกอบกับไตรมาส 2 ยังมีปัญหาการเมืองเข้ามาตอกย้ำจึงมีแนวโน้มสูงกว่าปีนี้บริษัทจะต้องเผชิญกับภาวะขาดทุน ส่งผลให้เป้าหมายการดำเนินธุรกิจปีนี้ ที่กำหนดงบประมาณรายรับ-รายจ่าย ปี2557 ที่ทำไว้ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2556 เดิมคาดว่าจะมีกำไรราว 3 พันล้านบาทจึงไม่มีทางเป็นไปได้ แม้แต่เป้าหมายใหม่หวังว่าจะกำไรราว 100 ล้านบาทเท่านั้นก็เป็นไปได้ยากเพราะเหลือเพียงไตรมาส 4 เท่านั้นที่พอหวังว่าจะมีกำไร เพราะเป็นช่วงไฮซีซัน
แหล่งข่าวกล่าวว่า การขาดทุนดังกล่าวสืบเนื่องจากจำนวนผู้โดยสารที่ใช้บริการลดลง ซึ่งโดยเฉลี่ยไตรมาสแรกโดยรวมทั้งตลาด การบินไทยมีผู้โดยสารหายไปราว 20% จากปกติที่จะมีจำนวนผู้โดยสารใช้บริการเฉลี่ยต่อปี อยู่ที่เดือนละราว 2 ล้านคน แต่ที่ผ่านมามีจำนวนราว 1.6 ล้านคนต่อเดือน ซึ่งตลาดที่ได้รับผลกระทบมาก จีน ฮ่องกง ญี่ปุ่น เกาหลี ลดลงราว 25-30% ขณะที่อัตราส่วนบรรทุกผู้โดยสาร(เคบิน แฟกเตอร์)ในช่วงไตรมาสแรกอยู่ที่ 71.1% ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 79.8%
ส่วนการขาดทุนด้านโอเปอเรชันปีนี้ เกิดขึ้นจาก 3 สาเหตุหลัก คือ 1. การชะลอตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งเป็นผลกระทบการเมือง 2. การแข่งขันที่เพิ่มสูงขึ้นและจะยิ่งทวีความรุนแรง หลังการเปิดตัวสายการบินต้นทุนต่ำระยะไกล อย่าง ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ นกสกู๊ต ที่จะทำให้การบินไทยมีคู่แข่งในตลาดนอร์ทเอเชีย อย่าง จีน เกาหลี ญี่ปุ่น จากที่ก่อนหน้านี้การบินไทยถือเป็นสายการบินที่มีรายได้จากเส้นทางบินสู่ญี่ปุ่นค่อนข้างสูง และ3.ปัญหาภาวะOver Capacity อันเป็นผลพวงจากการรับมอบเครื่องบินในช่วง 2 ปีนี้(2556-2557)รวมกันกว่า 31 ลำที่ถือว่ามากที่สุดในประวัติศาสตร์ ท่ามกลางสภาพตลาดที่กำลังอยู่ในช่วงชะลอตัว จึงเป็นจังหวะที่ไม่สมดุลกับดีมานด์ของผู้โดยสารที่ลดลง ทั้งยังมีภาระดอกเบี้ยอยู่ที่ 6-7 พันล้านบาท
อย่างไรก็ตามเมื่อเกิดความไม่สมดุลระหว่างซัพพลายและดีมานด์ ส่งผลให้ฝ่ายบริหารตัดสินใจแก้ปัญหาด้วยการปรับลดเที่ยวบินเพื่อลดต้นทุน (ยูนิตคอสต์ต่อไฟลต์) ลงสวนทางกลับคนในองค์กรมีมองว่าเป็นการตัดสินใจผิดพลาด เพราะแม้จะสามารถลดค่าใช้จ่ายหลักคือค่าน้ำมันลงได้ แต่ค่าใช้จ่ายที่เป็นต้นทุนคงที่ก็ยังมีอยู่ อาทิ ค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุง ค่าเช่าเครื่องบิน ดังนั้นการนำเครื่องไปใช้งานให้เกิดประโยชน์สูงสุด แม้ผู้โดยสารจะน้อยก็ยังมีรายได้ดีกว่าไม่บินเลยซึ่งเป็นการตัดโอกาสการหารายได้
"ปีที่ผ่านมาการบินไทยรับมอบเครื่องบิน 17 ลำ ปีนี้รับมอบอีก 14 ลำและเมื่อมีการลดเที่ยวบินลงไปเป็นจำนวนมากทำให้ปัจจุบันประสิทธิภาพการใช้เครื่องบินหรือ Aircraft Utilization ปีนี้จึงลดต่ำลงไปมาก เฉลี่ยทุกลำอยู่ที่ 10.8 ชั่วโมงต่อวันนั่นหมายถึงที่เหลืออีก 13.2 ชั่วโมงต่อวันไม่ได้ใช้งาน ทำให้ไม่สามารถนำมาสร้างรายได้ ขณะเดียวกันยังมีเครื่องบินรอขายอีกกว่า 24 ลำ" แหล่งข่าวกล่าว
ทางด้านนักวิเคราะห์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย)ฯ คงคำแนะนำ หุ้น การบินไทย (THAI) ขาย คาดว่าการดำเนินงานไตรมาสแรกยังขาดทุน ได้รับผลลบจากการเมืองทั้งยังคงมีการส่งเสริมทางการตลาดต่อเนื่องค่าใช้จ่ายจึงสูง และโครงการจำใจจาก ราคาพื้นฐานเป็น 9.00 บาท ซึ่งคิดเป็นราคาต่อมูลค่าหุ้นทางบัญชี ( PBV) ปี 2557 ที่ 0.4 เท่า และคาดว่ายังไม่มี ปัจจัยที่จะเป็นแรงกระตุ้นราคาหุ้น (catalyst) ที่น่าสนใจ
อนึ่งสำหรับผลประกอบการการบินไทยปี 2553 พบว่ามีกำไร 1.5 หมื่นล้านบาทปี 2554 กลับมาขาดทุน1 หมื่นล้าน ปี 2555 กำไร 6.2พันล้านบาท และปี2556 ขาดทุน 1.2 หมื่นล้านบาท
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 34 ฉบับที่ 2,942 วันที่ 24 - 26 เมษายน พ.ศ. 2557

[admin]

หัวข้อข่าว สรุปผลการดำเนินงานของบจ.และรวมของบริษัทย่อย ไตรมาสที่ 1 (F45-3)
หลักทรัพย์ THAI
แหล่งข่าว THAI
รายละเอียดแบบเต็ม คลิกที่นี่เพื่อดาวน์โหลดรายละเอียดข่าวรูปแบบเต็ม



สรุปผลการดำเนินงานของบจ.และรวมของบริษัทย่อย (F45-3)
บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)

(หน่วย : พันบาท)
งบการเงินรวม
ไตรมาสที่ 1
สอบทาน
สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม
ปี 2557 2556
กำไร (ขาดทุน) สุทธิ (2,634,111) 8,282,949
กำไร (ขาดทุน) สุทธิ (1.21) 3.79
ต่อหุ้น (บาท)


งบการเงินเฉพาะกิจการ
ไตรมาสที่ 1
สอบทาน
สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม
ปี 2557 2556
กำไร (ขาดทุน) สุทธิ (2,701,843) 7,730,937
กำไร (ขาดทุน) สุทธิ (1.24) 3.54
ต่อหุ้น (บาท)

[admin]

BLS.THAI: ผลประกอบการไตรมาส 1/57 เป็นไปตามคาด; คาดการณ์ผลประกอบการอ่อนแอลงไตรมาสหน้า
วันที่เผยแพร่ : 16/05/2014
 
บทวิเคราะห์โดยสังเขป :
     

สอดคล้องกับประมาณการของเรา

THAI รายงานขาดทุนสุทธิไตรมาส 1/57 ที่ 2,634 ล้านบาท พลิกกลับจากกำไรสุทธิไตรมาส 1/56 แต่ขาดทุนลดลง QoQ หากไม่นับรวมรายการพิเศษ กำไรหลักไตรมาส 1/57 จะอยู่ที่ 3,540 ล้านบาท พลิกกลับจากกำไรหลักในไตรมาส 1/56 และขาดทุนเพิ่มขึ้น QoQ ผลประกอบการที่ออกมาเป็นไปตามที่เราและตลาดคาด

ประเด็นหลักจากผลประกอบการ

ผลการดำเนินงานหลักที่อ่อนแอลง เนื่องมาจาก 1) จำนวนผู้โดยสารที่ลดลง (ลดลง 15% YoY และ 9% QoQ มาอยู่ที่ 4.8 ล้านคน ในขณะที่อัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสารลดลงมาอยู่ที่ 70.1% จาก 79.8% ในไตรมาส 1/56 และ 71% ในไตรมาส 4/56), 2) ปริมาณการบรรทุกสินค้าต่ำลง (ลดลง 5% YoY และ 7% QoQ มาอยู่ที่ 158,155 ตัน), 3) รายได้จากผู้โดยสารต่อหน่วยลดลง (ลดลง 1% YoY แต่เพิ่มขึ้น 3% QoQ มาอยู่ที่ 2.75 บาทต่อ RPK) และ 4) รายได้อื่นลดลงถึง 47% YoY และ 82% QoQ อย่างไรก็ตามรายได้จากค่าระวางเพิ่มสูงขึ้น 1% ทั้ง YoY และ QoQ มาอยู่ที่ 9.29 บาทต่อ RFTK อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายทรงตัว YoY ที่ 4% (และลดลง 1% QoQ)

แนวโน้ม

โดยปกติแล้วไตรมาสที่สองจะเป็นช่วงโลว์ซีซั่นของการท่องเที่ยวของไทยกอปรกับปัญหาความไม่สงบทางการเมืองที่ยังคงยืดเยื้อ ดังนั้นเราคาดว่าตัวเลขการจราจรของ THAI จะอ่อนแอลงทั้ง YoY และ QoQ ในไตรมาส 2/57 อีกทั้งเรายังคาดว่าบริษัทจะทำโปรโมชั่นลดราคาตั๋วโดยสารเพื่อกระตุ้นยอดในช่วงไตรมาสดังกล่าว ดังนั้นเราคาดว่ารายได้จากผู้โดยสารต่อหน่วยในไตรมาส 2/57 จะปรับตัวลดลง QoQ อย่างไรก็ตามรายได้จากผู้โดยสารต่อหน่วยน่าจะปรับตัวดีขึ้น YoY เนื่องจากโปรโมชั่นของไตรมาสนี้อาจไม่มากเท่าที่เคยทำในไตรมาส 2/56 ดังนั้นเราคาดว่าผลขาดทุนหลักไตรมาส 2/57 ของ THAI จะเพิ่มสูงขึ้นทั้ง YoY และ QoQ

สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไป

เรายังคงประมาณการผลขาดทุนสุทธิปี 2557 ของเราไว้เท่าเดิมที่ 9,243 ล้านบาท อย่างไรก็ตามเราคาดว่าตลาดจะปรับลดประมาณการลง (ประมาณการของเราต่ำกว่าตลาดอยู่ 56%)

ประเด็นการลงทุน

แนวโน้มผลประกอบการที่อ่อนแออันเป็นผลมาจากอุปสงค์ที่ชะลอตัว (เนื่องจากการประท้วงทางการเมือง) และต้นทุนที่ไม่สามารถยืดหยุ่นได้ จะส่งผลกกดดันต่อราคาหุ้นต่อเนื่อง นอกจากนี้ช่วงโลว์ซีซั่นของการท่องเที่ยวไทยจะเริ่มต้นขึ้นในไตรมาส 2/57 ดังนั้นเรายังไม่เห็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นใดๆในระยะสั้นนี้ อย่างไรก็ตามตลาดได้สะท้อนประเด็นดังกล่าวไว้แล้ว ในขณะนี้หุ้น THAI มีระดับการซื้อขายอยู่ที่ PBV ณ สิ้นปี 2557 ที่ 0.6 เท่า ซึ่งต่ำกว่าทั้งค่าเฉลี่ยระยะยาวขอบริษัทที่ 0.8 เท่า และค่าเฉลี่ยภูมิภาคที่ 0.9 เท่า ความเสี่ยงขาลงต่อราคาหุ้นจากนี้น่าจะมีจำกัด
 
คำแนะนำ :
     

คำแนะนำพื้นฐาน: ถือ
เป้าหมายพื้นฐาน: 13.70 บาท

[admin]

BLS.THAI: แนวโน้มขึ้นกับอยู่กับสถานการณ์หลังการประกาศกฎอัยการศึก
วันที่เผยแพร่ : 22/05/2014
 
บทวิเคราะห์โดยสังเขป :
     ประเด็นการลงทุน
ประเด็นหลักจากการประชุมนักวิเคราห์เมื่อวานนี้ยังคงยืนยันแนวโน้มผลประกอบการอ่อนแอ เนื่องจากอุปสงค์ปรับตัวลดลง (เป็นผลมาจากเหตุไม่สงบทางการเมือง) และต้นทุนที่มีความยืดหยุ่นน้อย โดยปัจจัยเหล่านี้จะยังคงส่งผลให้ราคาหุ้นไม่โดดเด่น นอกจากนี้ช่วงโลว์ซีซั่นของการท่องเที่ยวไทยเริ่มในไตรมาส 2/57 ดังนั้นเราจึงยังไม่เห็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นในระยะสั้นนี้ แต่อย่างไรก็ตามราคาหุ้นได้สะท้อนประเด็นความกังวลเหล่านี้แล้ว โดยขณะนี้ THAI ซื้อขายด้วยมูลค่าทางบัญชี ณ สิ้นปี 2557 ที่ 0.6 เท่า ต่ำกว่าทั้งค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 0.8 เท่าและค่าเฉลี่ยภูมิภาคที่ 0.9 เท่า ดังนั้นความเสี่ยงขาลงของราคาหุ้นน่าจะมีจำกัด

คาดผลประกอบการไตรมาส 2/57 อ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่อง
ไตรมาสที่ 2 เป็นช่วงโลว์ซีซั่นของการท่องเที่ยวไทยกอปรกับยังคงมีความขัดแย้งทางการเมือง ส่งผลให้เราคาดจำนวนผู้โดยสารของ THAI จะชะลอตัวทั้ง YoY และ QoQ ในไตรมาส 2/57 อัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสารเป็น 71.1% สำหรับเดือนเม.ย. (เทียบกับที่ 75.8% สำหรับเดือนเม.ย. 2556) ในขณะนี้ยอดจองเป็น 64.8% สำหรับเดือนพ.ค. และ 44.7% สำหรับเดือนมิ.ย. ดังนั้นเราคาดอัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสารไตรมาส 2/57 ลดลงเหลือ 67% จาก 70.5% ในไตรมาส 2/56 นอกจากนี้บริษัทยังมีการเสนอโปรโมชั่นตั๋วเพื่อประตุ้นยอดขายในช่วงไตรมาส ดังนั้นรายได้จากผู้โดยสารเฉลี่ยต่อหน่วยอาจจะปรับตัวลดลง QoQ (แต่รายได้จากผู้โดยสารเฉลี่ยต่อหน่วยจะปรับตัวสูงขึ้น YoY หนุนโดยโปรโมชั่นตั๋วที่ไม่น่าจะมากเท่าในไตรมาส 2/56) ดังนั้นเราคาดขาดทุนหลักของ THAI จะเพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ

กฎอัยการศึก - มี 2 สถานการณ์ พร้อมกับ 2 ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันสำหรับ THAI
บรรยากาศทางการเมืองหลังจากประกาศกฎอัยการศึกเป็นปัจจัยหลักที่ต้องจับตามอง โดยหนึ่งในสองสถานการณ์มีแนวโน้มที่จะออกมาในรูปแบบ 1) เหตุไม่สงบทางการเมืองคลี่คลาย กระตุ้นให้อุปสงค์ในการเดินทางขาเข้าและภายในประเทศไทยเพิ่มสูงขึ้น หรือ 2) ปัญหาทางการเมืองยังคงมีอยู่, ความรุนแรงเพิ่มสูงขึ้น, ยังคงประกาศใช้กฎอัยการศึกและนักท่องเที่ยวขาเข้าปรับตัวลดลงเป็นอย่างมาก (โดยขณะนี้รัฐบาลของ 29 ประเทศแนะให้พลเมืองของตนเองระมัดระวังในการเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย) เรายังไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะออกมาในรูปแบบไหน ซึ่งจะต้องขึ้นอยู่กับทุกฝ่าย แนวโน้มการดำเนินงานไตรมาส 2/57 ของ THAI จึงยากที่จะคาดการณ์

มีแนวคิดออก Hybrid bond เพื่อลดอัตราส่วนหนี้สิน, ลดความกังวลเรื่องเพิ่มทุน
THAI ใช้เงินจำนวนมากเพื่อเพิ่มจำนวนเครื่องบินในปี 2556-2557  ในขณะที่มีเหตุไม่สงบทางการเมืองและเศรษฐกิจชะลอตัวจึงส่งผลให้รายได้ปรับตัวลดลง กระแสเงินสดของบริษัทลดลงและสัดส่วนหนี้ที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้นปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นจาก 2 เท่า ณ สิ้นเดือนมี.ค. 2556 เป็น 3.4 เท่า ณ สิ้นเดือนมี.ค. 2557 การที่สัดส่วนหนี้ที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มสูงขึ้นมาก ส่งผลให้บริษัทวางแผนที่ออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนในปีนี้ เพื่อที่จะลดสัดส่วนให้อยู่ที่ 2.7-2.8 เท่า ซึ่งคิดเป็นมูลค่าหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนที่ 1 หมื่นล้านบาท

สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือจัดให้หุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนเปรียบเสมือนส่วนของผู้ถือหุ้น  เนื่องจากไม่มีการกำหนดวันครบกำหนดไถ่ถอนและผู้ออกหุ้นสามารถยืดเวลาการจ่ายดอกเบี้ยออกไปได้ถ้าหากมีความจำเป็น
 
คำแนะนำ :
     คำแนะนำพื้นฐาน:  ถือ
เป้าหมายพื้นฐาน:  13.70บาท

[admin]

การบินไทย คว้า 2 รางวัล สายการบินยอดเยี่ยม

ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

นางเพชรพริ้ง สารสิน ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายภาพลักษณ์และสื่อสารองค์กร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตลอดเวลา ที่ผ่านมา ฝ่ายบริหารและพนักงานทุกคนได้ทุ่มเทการทำงานอย่างเต็มที่ อีกทั้งบริษัทฯยังดำเนินการพัฒนาปรับปรุงผลิตภัณฑ์และการบริการต่างๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อให้ผู้โดยสารได้รับบริการที่ดีที่สุดในทุกๆ ด้าน และนับเป็นความภูมิใจอย่างยิ่งที่ในปีนี้การบินไทยได้รับรางวัลสายการบินยอดเยี่ยม 3 รางวัล จากสกายแทรกซ์ โดยเป็นอันดับที่ 1 ถึง 2 รางวัล ได้แก่รางวัลสายการบินยอดเยี่ยมอันดับที่ 1 ประเภทพนักงานสายการบินที่ให้บริการยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย (Best Airline Staff Service in Asia)และประเภทการให้บริการอาหารบนเครื่องบินชั้นประหยัดยอดเยี่ยม (Best Economy Class Airline Catering)

นอกจากนี้ การบินไทยยังได้รับรางวัลสายการบินยอดเยี่ยมอันดับที่ 3 ประเภทการให้บริการภาคพื้น (Best Airport Services (Ground Service)โดยสกายแทรกซ์ได้ทำพิธีประกาศผลและมอบรางวัลดังกล่าวในงาน World Airline Awards ประจำปี 2557 ณ สหราชอาณาจักร ซึ่งการบินไทยจะมุ่งมั่นเพื่อให้บริการที่ดีอย่างต่อเนื่องและดียิ่งขึ้น เพื่อคงไว้ซึ่งความไว้วางใจที่ได้รับจากนักเดินทางทั่วโลก

สำหรับ รางวัลสายการบินยอดเยี่ยมประเภทต่างๆ จากสกายแทรกซ์ ได้มาจากการสำรวจ ความพึงพอใจของนักเดินทางจำนวนมากกว่า 18.85 ล้านคน กว่า 105 สัญชาติ โดยทำการประเมินผลมาตรฐานผลิตภัณฑ์และการบริการของสายการบินต่างๆเริ่มตั้งแต่ก้าวเข้าสู่สนามบินจนถึงการบริการบนเครื่องบิน อาทิ การให้บริการเช็คอิน ความสะดวกสบายของที่นั่งและภายในห้องโดยสาร การให้บริการอาหารและเครื่องดื่ม การให้บริการของพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน และระบบสาระบันเทิงบนเครื่องบิน

[admin]

"การบินไทย" ดั๊มพ์ราคาตั๋วบินญี่ปุ่นสกัดยอดขาย "ไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์"
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

สายการบิน "ไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์" ได้เปิดตัวเส้นทางบินตรงใหม่จากกรุงเทพฯสู่ญี่ปุ่น 2 เส้นทาง ทั้งโตเกียวและโอซาก้าพร้อมกันได้สักพักแล้ว และเตรียมให้บริการวันที่ 1 กันยายนนี้เป็นต้นไป

ราคาโปรโมชั่นก็แสนจะยั่วน้ำลายเหล่านักท่องเที่ยวคนไทยที่อยากเที่ยวญี่ปุ่นในราคาประหยัดเปิดตัวด้วยราคาที่นั่งชั้นประหยัดเริ่มต้น 2,990 บาทต่อเที่ยวบิน สามารถเดินทางได้ตั้งแต่ 1 กันยายนนี้ถึง 31 กรกฎาคม 2558 ปิดการจองโปรโมชั่นรอบนี้ไปแล้วเมื่อ 13 กรกฎาคมที่ผ่านมา

ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน สายการบินแห่งชาติอย่าง "การบินไทย" เองก็ไม่ยอมน้อยหน้า เข็นโปรโมชั่นตั๋วบินไปญี่ปุ่นราคาพิเศษ "เจแปน, เกรท แอทแทรคชั่น" ออกมาสู้ไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ ไม่ปล่อยให้ช่วงชิงยอดขายไปจากการบินไทยแน่นอน

สำหรับโปรโมชั่น เจแปน, เกรท แอทแทรคชั่น จำหน่ายบัตรโดยสารชั้นประหยัด โดยมอบสิทธิพิเศษสำหรับผู้โดยสารที่เดินทางพร้อมกัน 2 ท่านขึ้นไป ใน 4 เส้นทางบินยอดนิยมสู่ประเทศญี่ปุ่น สามารถสำรองที่นั่ง ออกบัตรโดยสาร และเริ่มเดินทางได้ตั้งแต่วันนี้ - 31 มกราคม 2558

โดยเส้นทางไป-กลับ กรุงเทพฯ-นาริตะ เที่ยวบินที่ TG 676 ราคาต่อที่นั่งเริ่มต้นที่ 17,220 บาท เส้นทางไป-กลับ กรุงเทพฯ-ฮาเนดะ เที่ยวบินที่ TG 660 ราคาต่อที่นั่งเริ่มต้นที่ 17,220 บาท เส้นทางไป-กลับ กรุงเทพฯ-โอซาก้า เที่ยวบินที่ TG672 ราคาต่อที่นั่งเริ่มต้นที่ 17,340 บาท และเส้นทางไป-กลับ กรุงเทพฯ-ฟูกูโอกะ ราคาต่อที่นั่งเริ่มต้นที่ 16,680 บาท ทั้งนี้ ราคาดังกล่าวได้รวมค่าภาษี และค่าธรรมเนียมทุกประเภทแล้ว และเป็นราคาสำหรับการเดินทางของผู้ใหญ่ตั้งแต่ 2 ท่านขึ้นไป โดยต้องเดินทางพร้อมกันทั้งไปและกลับในเส้นทางเดียวกัน

แม้กลยุทธ์การลดราคาตั๋วบินจะไม่ใช่ "ทาง" ของการบินไทยเท่าไหร่ แต่วินาทีนี้จำเป็นเหลือเกินที่ต้องปรับเปลี่ยนราคาขายให้เข้ากับสถานการณ์ตลาดและการแข่งขัน ไม่เช่นนั้นอาจเสียส่วนแบ่งตลาดที่ควรได้ให้กับสายการบินราคาประหยัดระยะไกลน้องใหม่อย่างไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ได้

ทั้งนี้ยังมีนักท่องเที่ยวไทยหลายคนที่มองเห็นจุดเด่นด้านเส้นทางบินที่หลากหลายของการบินไทย และบริการพรีเมี่ยมบนเครื่องทั้งอาหารและบริการน้ำหนักกระเป๋าฟรี เหมาะกับขาช้อปอย่างคนไทย แม้โปรโมชั่นนี้ ภาพรวมราคาตั๋วบินต่อเที่ยวบินที่ออกมายังสูงกว่าไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์อยู่ แต่เชื่อว่ายังมีนักท่องเที่ยวไทยหลาย ๆ คนตัดสินใจเลือกจองกับการบินไทย เพราะไม่อยากคิดมากกับค่าใช้จ่ายบริการเสริมของสายการบินโลว์คอสต์นั่นเอง

[admin]

มติการบินไทยให้พนักงาน 900 คน เกษียณก่อนกำหนดตามสมัครใจ

นายดำรงค์ ไวยคณี ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย ระบุว่า ปัจจุบันการบินไทยมีพนักงานกว่า 25,000 คน โดยมติที่ให้พนักงาน 900 คน เกษียณอายุก่อนกำหนด ตามแผนฟื้นฟูโครงการ คาดว่าน่าจะใช้งบประมาณ 2,000 ล้านบาท โดยการเกษียณอายุก่อนกำหนดให้ขึ้นอยู่ความสมัครใจส่วนบุคคล เชื่อว่าจะสามารถลดรายจ่ายของบริษัททั้งเงินเดือนและค่ารักษาพยาบาลได้ ทั้งนี้พนักงานในกลุ่มนี้มีทั้งไม่ต้องการทำงานกับบริษัท พนักงานที่เจ็บป่วย ลาบ่อย โดยมีฐานะเงินเดือนสูงเฉลี่ย 70,000-80,000 บาทขึ้นไป อายุงานเฉลี่ย 15-20 ปี

อย่างไรก็ตาม นายดำรงค์ยังระบุอีกว่า ในช่วงเกือบ 7 ปีที่ผ่านมา การบินไทยประสบปัญหาขาดทุน 3 ครั้ง คือ ปี 2551 ขาดทุนกว่า 20,000 ล้านบาท , ปี 2554 และปี 2557 ขาดทุนเฉลี่ยเดือนละ 1,000 ล้านบาท สาเหตุมาจากการบริหารจัดการและปัญหาทางการเมือง โดยเห็นว่าสิ่งจำเป็นเร่งด่วนที่ระดับบริหารจะต้องดำเนินการคือ การสร้างความศรัทธาและความเชื่อมั่นจากพนักงาน โดยเป็นการชี้แจงและรับฟังปัญหาจากพนักงาน เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนองค์กร

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ updated: 25 ก.ค. 2557 เวลา 16:50:42 น.